ประวัติดีเจเพชรจ้า เจ้าของสมญานาม ดีเจบ้าพลัง 95.5 เวอร์จิ้นฮิตซ์ ที่มีของเก็บราคา 8 หลัก อย่างรถสปอร์ตที่เจ้าตัวชอบพอมากถึงขั้นทำที่จอดรถติดแอร์
หากพูดถึงนักจัดรายการที่มีท่าทีการจัดรายการที่ไม่เหมือนใคร การสนทนาตรงไปตรงมา แต่เฮฮามันสุดติ่ง หลายคนคงนึกถึง ดีเจเพชรจ้า วิเชียร กุศลมโนมัย เจ้าของนาม ดีเจบ้าพลัง ณคลื่น 95.5 เวอร์จิ้นฮิตซ์ (VIRGIN HITZ) ที่จัดคู่กับเกลอสนิทอย่างนักจัดรายการภูมิ ภูมิใจ ตั้งสง่า ที่ขอบอกว่าเข้าขากันสุด ๆ และนักจัดรายการเพชรจ้า ยังได้รับสมญานามว่าเป็นเพลย์บอยตัวจริงอีกด้วย ก็เพราะหน้าที่หล่อเหลา บวกกับบุคลิกทะเล้น ขี้เล่น ทำให้มีสาว ๆ ต่างให้ความฝักใฝ่หนุ่มสปอร์ตไฟแรงคนนี้นี่เอง
แต่ถึงจะได้รับสมญานามว่าเป็นเพลย์บอย แต่เรื่องของหัวใจนั้น ดีเจเพชรจ้า ถูกดาราสาวสุดแบ๊วอย่าง นิวเคลียร์ หรรษา จึงวิวัฒนวงศ์ จองเป็นเจ้าของไปเรียบร้อยแล้วล่ะ และต้องขอย้ำเลยว่า นักจัดรายการวิทยุเพชรจ้าทั้งรักทั้งหวงแหนสาวนิวเคลียร์สุด ๆ ถึงขั้นไม่ยอมให้รับงานเข้าฉากที่มีฉากเลิฟซีนเลยทีเดียว ส่วนตัวเขาเองก็รับปากว่าจะไม่รับงานเลิฟซีนเช่นกัน เพราะเคยให้รับปากกับหวานใจเอาไว้ นอกจากนี้ นักจัดรายการเพชรจ้า ยังห้ามนิวเคลียร์แต่งตัวโป๊อีกด้วย หากใส่กระโปรงสั้นต้องสวมกางเกงขาสั้นไว้ข้างใน เป็นซับในแบบที่สาว ๆ ใส่กันไม่ได้นะ เพราะดูรัดรูปเกินไป ก็แหม.. แฟนทั้งสวย ทั้งหุ่นดี จะไม่ให้หวงได้อย่างไรละเนอะ นอกจากนี้ นักจัดรายการวิทยุเพชรจ้ายังเคยทุ่มทุนซื้อของของขวัญเซอร์ไพรส์วันเกิดคนรัก เป็นรถโฟล์ค นิวบีทเทิล สีชมพู ที่ราคาสูงเกือบ 2 ล้านบาท และยังมีนาฬิกาโรเล็กซ์ฝังเพชร สนนราคาเบา ๆ แค่สองแสนกว่าบาทอีกด้วย เจ้าตัวเลยได้รับฉายาอีกอย่างหนึ่งคือ พ่อบุญทุ่ม ไปครองนั่นเอง
ล่าสุด รายการตีท้ายครัว เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2557 ก็พาไปบุกบ้านนักจัดรายการวิทยุเพชรจ้า ที่ก้าวขาเข้าคฤหาสน์ก็ต้องใจฝ่อกับรถยนต์สปอร์ตจำนวนมากที่จอดเรียงกันอยู่ในที่จอดรถติดแอร์ โดยเจ้าตัวบอกว่าเป็นคนชอบสะสมรถยนต์สปอร์ตมากเลยรวบรวมและด้วยความที่รักรถยนต์มาก เขาจึงสั่งทำที่จอดรถติดกระจกเปิดแอร์ไว้ให้รถยนต์อีกด้วย แต่ที่เรียกว่าฮือฮาเป็นอย่างมาก ก็เมื่อเขาทุ่มทุนควักเงินกว่า 20 ล้านบาท ถอยซูเปอร์คาร์ Chevrolet Corvette Stingray มาเป็นเจ้าของเป็นคันแรกในเมืองไทยเลยล่ะ และยังชอบสะสมหุ่นซุปเปอร์ฮีโร่ ทั้งสไปเดอร์แมน กัปตันอเมริกา และไอรอนแมนที่สั่งสร้างราคากว่า 150,000 บาท ส่วนสไตล์การแต่งเติมบ้านของดีเจเพชรจ้านั้น เหมือนอยู่ในผับมาก เพราะหลงใหลจัดปาร์ตี้ในคฤหาสน์และจัดบ่อยมาก จนเจ้าตัวบอกว่าเพื่อนบ้านถึงขั้นขายบ้านหนีไปเลยทีเดียว
นอกจากนี้ นักจัดรายการเพชรจ้า เคยบอกเล่าถึงครอบครัวว่า ทางครอบครัวของเขาได้ประกอบธุรกิจกาสิโน อยู่ที่มาเก๊า ประเทศจีน โดยเขาเริ่มรู้จักเก็บเงินตั้งแต่เด็ก เวลาได้อั่งเปาในช่วงเทศกาลตรุษจีนก็จะนำเงินนั้นเก็บสะสมฝากธนาคารไว้ จนเรียนมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ชั้นปีที่ 3 ก็ได้ลงทุนเปิดกิจการสถานบันเทิงกับเพื่อน มีรายได้ตกเดือนละ 40,000 บาท แต่สุดท้ายก็ปิดตัวลงเนื่องจากค่าเช่าที่แพง จากนั้นเมื่อเรียนจบมหาวิทยาลัยนักจัดรายการเพชรจ้าก็ได้ก้าวเข้ามาในแวดวงบันเทิงโดยเริ่มจากการถ่ายแบบโฆษณา พิธีกร และคว้ารางวัลที่ 1 ในการประกวดรายการดีเจหน้าใหม่อีกด้วย
ไปพบรังนอน “คาสโนวา” สิ้นลาย ดีเจเพชรจ้า
การให้คำนิยามคำว่า “ที่อยู่อาศัย” ของแต่ละคนล้วนสะท้อนเรื่องราว ความผูกพัน การให้น้ำหนักกับสิ่งที่คนผู้นั้นสนใจ บางท่านบอกว่าบ้านเป็นจุดศูนย์รวมของคนที่ตนเองรัก หากแต่บางคน ที่อยู่อาศัยคือสถานที่ที่ปลอดภัย สำหรับ “ดีเจเพชรจ้า วิเชียร กุศลมโนมัย” หรือสมญานามดีเจหนุ่มปากจัด บ้านของเขาเปรียบเสมือนรังนอน แหล่งชาร์ตพลัง และขุมทรัพย์ นั่นคงเป็นเพราะตลอดระยะเวลาในวงการบันเทิงกว่า 10 ปี เขาตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อสร้าง และมีในสิ่งที่พึงปรารถนาด้วยหยาดเหงื่อแรงงานของตนเอง
“บ้าน” หลังแรก
เมื่อ 8- 9 ปีที่แล้ว หลังจากทำการทำงานในวงการบันเทิงไม่นาน ดีเจเพชรจ้า ชายหนุ่มมาดกวน จัดรายการวิทยุแบบโผงผางมีสไตล์เฉพาะตัว ตัดสินใจซื้อบ้านหลังแรกเป็นของตัวเองในมูลค่าร่วม 10 ล้านบาท โดยเลือกจากที่ตั้งที่ลงตัว
“ในขณะนั้นก็เหล่อยู่หลายที่ แต่ที่เลือกที่นี่เพราะเป็นโครงการเดียวที่มีบ้านหลังมุมสุดหลงเหลืออยู่ เพราะผมต้องการบ้านหลังมุมสุด ที่มีพื้นที่เป็นส่วนบุคคล ตอนนั้นจ่ายมาสนนราคาประมาณ 8.8 ล้าน แต่เวลานี้ราคาน่าจะประมาณ 16 ล้าน”
ที่อยู่หลังนี้เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นตั้งอยู่บนเนื้อที่ขนาด 76 ตารางเมตร หน้าบ้านเปิดโล่งไม่มีประตูรั้ว ไม่มีประตู และจากการเลือกสรรบ้านหลังสุดท้ายในซอยนี้ทำให้เขาได้ขอบเขตมากกว่าบ้านหลังอื่น เช่นนั้นตั้งแต่หน้าบ้านจึงมีการเติมแต่งที่สะท้อนตัวตนของเขาอย่างเด่นชัด
ทุบ เปลี่ยน จนสบอารมณ์
ตั้งแต่พักอาศัยมาตลอดระยะเวลา 8-9 ปี ดีเจเพชรจ้าดัดแปลงการตกแต่งบ้านของตนเองมาแล้วหลายที ส่วนหนึ่งเนื่องจากอุปนิสัยขี้เบื่อ ซึ่งในปัจจุบันนี้ถือเป็นการรีโนเวทที่ค่อนข้างลงตัว และคิดว่าจะไม่มีการปรับปรุงอีกแล้ว จนกว่าจะสมรสและสร้างหอ
“ผมเปลี่ยนแบบการตกแต่งมาแล้วประมาณ 4 รอบ ตอนแรกตกแต่งด้วยสีดำในสไตล์วินเทจ ใกล้เคียงกับปราสาทในเทพนิยาย เน้นสีเทา สีดำเพราะความชื่นชอบส่วนตัว แต่พอหลายๆ คนมาดู ก็ทักว่ามันค่อนข้างน่ากลัว ผมก็ผลัดกันการตกแต่งใหม่ไปเรื่อยๆ จนล่าสุดมาลงตัวที่การตกแต่งแบบนี้”
นอกจากข้างล่างจะเปลี่ยนโทนสีของห้องเพื่อความรู้สึกร่วมของผู้ที่แวะมาที่บ้านแล้ว ชั้นสองของบ้าน หนุ่มขี้เบื่อคนนี้ยังทุบรวมพื้นที่จาก 3 ห้อง กลายเป็นพื้นที่เดียวกันทั้งหมด ถึงแม้บ้านจะดูไม่เป็นสัดส่วนสักเท่าไร แต่เขาก็ไม่ได้ให้ความสำคัญ เพราะเขาถือว่าชั้นสองของบ้านเป็นพื้นที่ส่วนตัวเฉพาะสำหรับตัวเอง
2 สไตล์ใน “บ้าน” หลังเดียว
เนื้อที่ชั้นล่างของตัวบ้านแบ่งเป็นพื้นที่ Living เน้นความสว่าง โล่ง โปร่ง สุขสบาย เนื่องจากมักจะมีผู้มาเยือนและเพื่อนฝูงๆ มาเยี่ยมเยือนบ้านอยู่บ่อยครั้ง เพื่อให้รู้สึกถึงความสำราญจึงเลือกใช้โทนสีอ่อนในการตกแต่งใกล้กับผนังห้องมีเตาผิงที่ใช้สำหรับวางตกแต่งกรอบรูป เทียนหอมและของเสริมแต่งชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ชุดโซฟาสไตล์หลุยส์สีหวานจัดวางไว้เข้ากับพรมสีขาวบนพื้นห้อง บนเพดานเพิ่มความหรูหราด้วยแชนเดอเลียช่อกะทัดรัด ที่แม้จะดูขัดกับบุคลิกเจ้าของบ้าน แต่ก็เพิ่มความโก้หรูและทำให้ห้องรับแขกมีจุดนำสายตาที่น่าสนใจ
แต่สิ่งที่สะท้อนตัวตนของดีเจเพชรจ้าได้เป็นอย่างดีภายในห้องนี้ก็คือ Island หรือโต๊ะหินอ่อนที่เชื่อมต่อกับห้องครัว เนื่องจากหนุ่มเจ้าของบ้านที่รักการปาร์ตี้มักจะใช้มุมนี้สำหรับชงเครื่องดื่มต้อนรับเพื่อนๆ เวลามีปาร์ตี้ที่บ้าน
“บ้านผมจัดปาร์ตี้บ่อย ถ้าในบ้านมุมนี้ก็สำคัญมาก เพราะใช้สำหรับชงเครื่องดื่ม และต้อนรับเพื่อนๆ ของผม เพราะเวลาผมจัดปาร์ตี้แต่ละครั้งจะมีคนมาเยอะมาก”
แต่เมื่อขึ้นไปบริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นพื้นที่ประจำตัวของเขา บรรยากาศกลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเพราะใช้สีดำในการเพ้นท์พื้นที่ทั้งหมด จากบันไดทางขึ้นด้านซ้ายมือเป็นมุมนั่งเล่นที่ตกแต่งด้วยชุดรับแขกหนังสีดำ ซึ่งกลมกลืนกับโต๊ะตัวกลาง แชนเดอเลีย หมอนอิง และของตกแต่งชิ้นอื่นๆ ที่คลุมโทนสีเดียวกันทั้งหมด
ด้านขวามือนอกจากตู้กระจกที่มีโมเดลซุปเปอร์ฮีโร่หนึ่งในของสั่งสมตั้งโชว์อยู่แล้ว ยังมีเคาน์เตอร์ชงเครื่องดื่มที่หากมีโอกาสไปเยี่ยมเขาในช่วงใกล้ค่ำ จะทำให้รู้สึกเหมือนเข้าไปเที่ยวในบาร์หรือคลับที่มีสไตล์เฉพาะตัว
ถัดจากโซนนั่งเล่นเชื่อมต่อกันเป็นส่วนของห้องนอนที่ยังคงใช้เฟอร์นิเจอร์สีดำทุกชิ้น นอกจากนั้นพื้นที่ในบริเวณนี้ยังเชื่อมต่อกับโต๊ะเครื่องแป้ง ห้องเก็บเครื่องแต่งกาย ซึ่งเต็มไปด้วยรองเท้าไนกี้ ดั้งค์ อีกหนึ่งของสะสมชิ้นโปรด ซึ่งทุกวันนี้มีประมาณ 200 คู่
มุมชิลสำหรับ “ปาร์ตี้ เลิฟเวอร์”
นอกจากบ้านจะแต่งอย่างมีสไตล์เฉพาะตัวแล้ว อีกมุมหนึ่งที่เชื่อมั่นว่าหลายๆ คนต้องอิจฉาตาร้อน และคิดว่าถ้าที่บ้านของตัวเองมีพื้นที่ก็น่าจะเพิ่มเติมมุมๆ นี้เข้าไป นั่นคืออ่างจากุซชี่เอาท์ดอร์ กับดาดฟ้าสำหรับปาร์ตี้ชมแสงดาวที่ตั้งอยู่นอกตัวบ้าน
“ตอนแรกมีแต่อ่างอาบน้ำตั้งอยู่นอกบ้าน ผมก็แช่ตัวบ่อยๆ เวลาอยู่บ้าน หรือกลับมาจากทำงานนอกบ้าน เอนหลังอ่านหนังสือ จิบโน่นนี่ไปแช่ตัวไป แต่ตอนหลังพอมีเพื่อนฝูงมาปาร์ตี้ที่บ้านเยอะๆ ก็เลยต่อเติมเป็นชั้นลอย ด้านบนทำเป็นชั้นดาดฟ้าที่ขึ้นไปนั่งชิลได้ มุมนี้จึงมีพร้อมหมด ทั้งเตาบาร์บีคิว อ่างแช่ตัว เครื่องเสียง พร้อมปาร์ตี้สุดๆ”
บ้านหลังแรกของหนุ่มมาดกวนคนนี้จึงเป็นสถานที่ที่รวมทุกสิ่งทุกอย่างจากน้ำพักน้ำแรงของเขา และต่อไปในอนาคตเขามีแผนถึงการสร้างเรือนหอรออยู่แล้วข้างหน้า จึงน่าสนใจมากว่ารูปแบบเรือนหอของเขาในภายภาคหน้าจะเป็นเช่นไร แต่เท่าที่รับรู้สวยงาม อลังการสมกับเป็นสวรรค์ย่อยๆ ของชายหนุ่มผู้นี้อย่างแน่นอน
ขอบคุณบทความจาก : http://popup4men.lnwshop.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น